วันจันทร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2553

ช้างสามเศียร

ท่านผู้ที่ได้สร้างช้างสามเศียร หรือช้างเอรวัณ นี้ขึึ้นมา ท่านมีนามว่า คุณเล็ก วิริยะพันธ์ ผู้เป็นเจ้าของบริษัท ธนบุรีประกอบรถยนต์เบนซ์อันเลื่องลือชื่อ แต่น่าเสียดาย ท่านได้จากโลกนี้ไปเสียแล้วท่านเป็นผู้มีความ คิดริเริ่มที่ยอดเยี่ยม และเป็นผู้ที่แม้มีชื่อเล่น ที่เรียกง่ายๆ ว่าเสี่ยเล็ก แต่ความคิดและหัวใจของท่านกลับตรงข้ามกับชื่อโดยสิ้นเชิงเพราะนอกจากจะเป็นเจ้าของกิจการที่ใหญ่โตแล้ว ท่านยังสร้างผลงานชิ้นโบแดงเอาไว้ที่พัทยา นั่นคือ ปราสาทไม้ ซึ่งเป็นปราสาทไม้ที่ใหญ่โต และสวยงามมาก ท่านที่ยังไม่ได้ไปชมก็ควรหาโอกาศไปชมเป็นขวัญตา นอกจากนี้ท่านเป็นผู้ที่มีสร้างเมืองโบราณ ที่เป็นสถานที่จำลองเอาสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามต่างๆของไทยไว้ให้คนไทยได้เข้าไปเที่ยวชมกันอีกด้วย

ส่วนช้างสามเศียร หรือช้างเอรวัณนี้ ตั้งอยู่ที่สมุทรปราการ การเดินทางมานั้นถ้ามาทางด่วนไม่ว่าจะ ดินแดงหรือ ถนนพระราม2แล้วให้ท่านมุ่งตรงไปลงปลายทางที่บางนา ขอแนะนำว่าให้ท่านลงทางที่เขาบอกว่า ไปสมุทรปราการ อย่าตรงไปลงบางนา พอท่านลงจากทางด่วน ก็จะเข้าถนนสุขุมวิท มุ่งหน้าไปปากน้ำ หรือจังหวัดสมุทรปราการ เส้นทางสายสุขุมวิทย์ นี่ล่ะ เป็นที่ตั้งของช้างสามเศียร ถ้าไปจากกรุงเทพ ช้างสามเศียรจะอยู่ซ้ายมือ แต่ยังไม่ถึงปากน้ำ ตั้งอยู่ติดริมถนน และสังเกตุง่ายเพราะช้างสามเศียร นี้มีความสูงเทียบเท่าตึก18ชั้นทีเดียวค่ะ
ตัวช้างสามเศียรสร้างยืนตั้งตะหง่านอยู่บนตัวอาคารรูปทรงกลม มีประตูเข้าออกรอบตัวอาคาร เมื่อท่านได้เห็นก็จะพากันร้องโอ้โห..ทำไมถึงได้ ใหญ่โต อลังการขนาดนี้ และเขาสร้างเพื่ออะไร ช้าง สามเศียรนี้สร้างขึ้นมามีจุดประสงค์เพื่อเป็นพิพิธพันธ์เก็บรักษาวัตถุโบราณ ของเสียเล็ก ซึ่งเก็บสะสมเอาไว้มากมาย โครงการนี้เริ่มจัดทำ เป็นโมเดลจำลอง ที่ทำมาจากขี้ผึ้ง ในอัตราส่วน 1ต่อ10 พร้อมกับระดมความคิดและผู้ก่อสร้าง หลายขั้นตอน นับตั้งแต่การก่อสร้าง การใช้วัสดุต่างๆ ที่จะนำมาประดับตกแต่ง ด้วยลวดลายศิลปะของไทย เพื่อให้มีความวิจตรสวยงามสมความตั้งใจของเสี่ยเล็ก โดยมรคุณพากเพียร วิริยะพันธ์ ทายาทของเสี่ยเล็ก เป็นผู้ดูแลและควบคุมการก่อสร้าง
ภายในตัวอาคารเป็นห้องโถง มีซุ้ม โอบบรอบด้วยบันไดวนทั้งสองข้าง ที่ขึ้นมาบรรจบตรงชั้นที่หนึ่ง เริ่มต้นความวิจิตรงดงามด้วยลวดลายงานปูนปั้นจากช่างฝีมือเมืองเพชรบุรี ที่บันไดประดับลวดลายด้วยกระเบื้องที่ทุบด้วยชามเบญจรงค์ ที่สั่งทำขึ้นมาใหม่จากโรงงาน มาต่อสลับสีสัน อย่างงดงาม ลวดลาย งานปั้นที่ทำมาจากหินฟลูออไลด์ ซึ่งมีสีขาวแบบปูนซีเมนซ์นั้นนำมาทำกรรมวิธีแบบโบราณ คือนำปูนมาผสมกับกาวหนังควาย ข้างเหนียวและน้ำตาล ในอัตราส่วนที่เหมาะสม แล้วช่างจะปั้นปูนตามลวดลาย ที่ต้องการกันสดๆ
ส่วยเพดานห้องโถง จะเป็นแผนที่โลก ตกแต่งด้วยกระจกสี โดยฝีมือช่างชาวเยอรมัน มองดูเหมือนเป็นหลังคาโลกที่สวยงาม เมื่อขึ้นถึงชั้นที่หนึ่งเป็นบรเวณใต้ท้องช้าง ต่องจากนั้นจะเป็นคานที่ใช้รองรับน้ำหนักของส่วนบน ที่เป็นตัวช้างสามเศียรที่มีน้ำหนักถึง 100ตัน
เพื่อความปลอดภัย วิศวะกร ป้องกันการประทะของแรงลม ด้วยการสร้างคานเหล็กยึดหัวช้างแล้วดึงลงมาทางด้านหลังแล้วฝังลึกลงไปใต้ดิน ภายในส่วนที่เป็นขาหลังของช้าง จะมีลิฟท์ 1 ตัวเพื่อขึ้น ชั้นบน ส่วนขาหน้าจะเป็นที่เก็บสายไฟ ท่อแอร์และท่อประปา
ลักษณะเด่นอีกอย่างของช้างสามเศียรนี้ก็คือ ที่ตัวผิวของช้าง และเครื่องทรงของช้าง ทำด้วยแผ่นทองแดงบริสุทธิ์ เมื่อเวลาผ่านไปหลายๆ ปี จะเกิดสนิมเขียวจับ ทำให้ผิวช้างมีลวดลายขึ้นมา ข้อสำคัญ ทองแดงเป็นวัสดุที่คงทน อยู่ได้นาน
ช้างเอรวัณหรือช้างสามเศียร เป็นช้างทรงของท่านท้าวมหาพรหม มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพของชาวไทย ทางโครงการจึงจัดตั้งศาลสำหรับผู้ที่มีความศรัทธา ได้มากราบไหว้ และขอพรจากช้าง เอรวัณ หรือช้างสามเศียรนี้กันไม่ขาดสายเลยทีเดียว
โครงการที่เมื่อเสร็จสมบูรณ์แล้ว ในบริเวณเนื้อ ที่นับสิบไร่ รอบๆตัวอาคาร ช้างสามเศียรจะกลายเป็นอุทยาน ขนาดไใหญ่ มีน้ำตก ลำคลอง และสวนไม้ประดับอันสวยงาม
ลองแวะไปเที่ยวชมความงามและไป สักการะบูชารูปจำลอง ของท่านช้างเอรวัณ หรือช้างสามเศียรกันบ้างก็ได้นะคะเพื่อความเป็นศิริมงคลของชีวิต หรือบางทีท่านอาจมีโชคลาภแบบใครอีกหลายๆคน ที่พากันพูดถึงความศักดิ์สิทธิ์ของท่านในแง่โชคลาภทางการเสียงโชค กันมานักต่อนักแล้งก็ได้นะคะ อิ อิ โปรดใช้วิจารณญาณในการรับฟัง ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เชื่อได้แต่อย่างมงายนะคะ อิ อิ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น